TH  |  EN

ชีวิตนักวิจัยไทยที่ขั้วโลกใต้ 2559

     ปี 2558 ศาสตราจารย์ ดร. ศิวัช พงษ์เพียจันทร์ อาจารย์จากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ และนายปฐพร เกื้อนุ้ย นิสิตปริญญาเอก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สองนักวิจัยจากประเทศไทย

รูปที่ 1 ทีมนักวิจัยจากประเทศไทยถ่ายรูปบริเวณป้ายของสถานีวิจัยสาธารณรัฐประชาชนจีน

รูปที่ 1 ทีมนักวิจัยจากประเทศไทยถ่ายรูปบริเวณป้ายของสถานีวิจัยสาธารณรัฐประชาชนจีน

รูปที่ 2 ทีมนักวิจัยจากประเทศไทย

     ได้รับคัดเลือกให้ร่วมสำรวจขั้วโลกใต้กับทีมนักวิจัยขั้วโลกของสาธารณรัฐประชาชนจีน (Chinese Arctic and Antarctic Administration (CCA)) ณ สถานีวิจัยเกรทวอลล์ (Great Wall Station) ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะคิงจอร์จ (King George Island) บริเวณคาบสมุทรแอนตาร์กติก

รูปที่ 3 รูปที่ 3 สถานีวิจัยเกรทวอลล์ (Great Wall Station)

     เป็นเวลาประมาณหนึ่งเดือนเริ่มตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม ถึงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 โดยทีมนักวิจัยไทยได้ออกเดินทางจากประเทศไทย ในเช้าวันที่ 3 มกราคม ใช้เวลา 3 วัน ก็ได้เดินทางมาถึงสถานีวิจัยเกรทวอลล์ (Great Wall Station) ประมาณเที่ยงวันของวันที่ 6 มกราคม ซึ่งเวลาที่นี่ช้ากว่าประเทศไทย 11 ชั่วโมง

รูปที่ 4 การเดินทางจากประเทศชิลีเข้าสู่ทวีปแอนตาร์กติก

     โดยหัวข้องานวิจัยของทีมนักวิจัยไทย คือ การศึกษาเกี่ยวกับการแพร่กระจายของสารเคมีโพลีไซคลิก อะโรมาติก ไฮโดรคาร์บอนที่แพร่กระจายและปนเปื้อนในดินที่บริเวณทวีปแอนตาร์กติก รวมทั้ง ศึกษาถึงผลกระทบของภาวะโลกร้อนที่มีต่อพฤติกรรมการกินอาหารของปลาและสัตว์ทะเลที่แอนตาร์กติก และการแพร่กระจายของพยาธิในปลาแอนตาร์กติกค็อด (Antarctic cods) ในการศึกษาครั้งนี้ ทำการเก็บตัวอย่างดินบริเวณผิวหน้า

รูปที่ 5 การเก็บตัวอย่างดินบริเวณผิวหน้า

     และเก็บตัวอย่างดินตะกอนโดยใช้กระบอกเจาะดิน (core sampling) เพื่อเก็บดินในแต่ละระดับความลึก

รูปที่ 6 การเก็บตัวอย่างดินตะกอนโดยใช้กระบอกเจาะดิน (core sampling) เพื่อเก็บดินตามระดับความลึก

     รวมทั้งเก็บตัวอย่างปลาบริเวณใกล้ๆกับสถานีวิจัย Great Wall เพื่อนำมาศึกษาวิจัย ซึ่งแผนงานของทีมวิจัยจะสุ่มเก็บตัวอย่างดินตะกอนบริเวณโดยรอบสถานี สำหรับตัวอย่างปลา ต้องเก็บให้ได้อย่างน้อย 50 ตัว ดังนั้น ในวันแรกที่มาถึง ทีมเราก็ได้เริ่มเก็บตัวอย่างดินทางทิศใต้ของสถานีวิจัย โดยมีระยะทางห่างจากสถานีวิจัยประมาณ 2 กิโลเมตร สุ่มเก็บตัวอย่างจำนวน 8 จุด จากนั้น นำตัวอย่างมาแช่แข็งไว้ในห้องปฎิบัติการเพื่อรอการวิเคราะห์

รูปที่ 7 การจัดเก็บตัวอย่างดินตะกอนในห้องปฎิบัติการเพื่อรอการวิเคราะห์

     อีกทั้งยังมีแผนที่จะเดินสำรวจและเก็บตัวอย่างดินในทิศอื่นๆ ในวันถัดไป แต่ทั้งนี้ต้องพิจารณาสภาพอากาศเป็นหลัก เพราะบางวันมีพายุหิมะทำให้ทีมสำรวจไม่สามารถออกเก็บตัวอย่างได้

รูปที่ 8 พายุหิมะ

     ในส่วนของอาหารการกินที่ทางสถานีจัดให้เป็นอาหารจีนที่คุ้นเคย

รูปที่ 9 อาหารของสถานีวิจัย Great Wall

    ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาสำหรับคนไทย หลังเวลาอาหารเย็นตอนหกโมงท้องฟ้ายังไม่มืดเพราะพระอาทิตย์ที่ขั้วโลกใต้จะลับขอบฟ้าหลังสี่ทุ่มและจะขึ้นอีกครั้งตอนตีห้า เราก็ยังสามารถออกไปเก็บตัวอย่างปลาได้ การเก็บตัวอย่างปลา เราใช้วิธีการตกปลาบริเวณแนวชายฝั่งซึ่งเป็นโขดหิน

รูปที่ 10 การตกปลาบริเวณแนวชายฝั่ง

    จึงต้องใช้ความพยายามและความอดทนอย่างสูงกว่าปลาแต่ละตัวจะว่ายมาติดเบ็ด ในช่วง 1-2 วันแรก เราตกปลาไม่ได้เลยแม้แต่ตัวเดียว แต่ทีมเราได้คำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ในสถานีวิจัยว่าให้ตกปลาในช่วงน้ำลง ซึ่งก็ได้ผลจริงๆ เพราะปลาปลาแอนตาร์กติกค็อด

รูปที่ 11 ปลาแอนตาร์กติกค็อด (Antarctic cods) ที่ทางทีมวิจัยสามารถตกได้

    จะกินเหยื่อในตอนน้ำลง ดังนั้นการวางแผนในการออกตกปลาครั้งต่อไป เราจึงต้องศึกษาตารางน้ำขึ้น-น้ำลง เพื่อวางแผนช่วงเวลาทำงานให้เหมาะสมมากขึ้น ปลาที่จับได้มีการชั่งน้ำหนักและวัดความยาว

รูปที่ 12 การชั่งน้ำหนักและวัดความยาวปลาแอนตาร์กติกค็อด

      จากนั้นจึงผ่าท้องปลาเพื่อศึกษาองค์ประกอบของอาหารในกระเพาะภายใต้กล้องจุลทรรศน์ในห้องปฎิบัติการ

ห้องปฎิบัติการภายในสถานีวิจัย

รูปที่ 13 การศึกษาองค์ประกอบของอาหารในกระเพาะปลาแอนตาร์กติกค็อดภายใต้กล้องจุลทรรศ์

รูปที่ 14 องค์ประกอบของชนิดอาหารในกระเพาะปลาแอนตาร์กติกค็อด

     พบว่าอาหารส่วนใหญ่ในกระเพาะเป็น Amphipod, หอยฝาเดียว (gastropod) ไส้เดือนทะเล (polychaete) และพยาธิจำนวนมาก

รูปที่ 15 ตัวอย่างอาหารในกระเพาะปลาแอนตาร์กติกค็อด: amphipod (ซ้าย) และ พยาธิ (ขวา)

     ในบางวัน เรามีแผนในการไปเก็บตัวอย่างบริเวณเกาะข้างเคียง ซึ่งต้องใช้เรือยางเป็นพาหนะและทุกครั้งที่ลงเรือจะต้องมีการเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นชุดที่กันน้ำและมีชูชีพติดอยู่ที่กับชุดด้วยเพื่อความปลอดภัยและป้องกันความหนาวเย็น นอกจากการเดินทางสำรวจและเก็บตัวอย่างแล้ว หัวหน้าสถานียังมีโครงการให้นักวิจัยและเจ้าหน้าที่เดินทางไปเยี่ยมเยียนสถานีวิจัยของชาติอื่นๆ ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะเดียวกันเพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นหรือแม้แต่ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ทีมนักวิจัยของไทยจึงได้มีโอกาศเยี่ยมชมการทำงานและชีวิตความเป็นอยู่ของนักวิจัยจากประเทศต่างๆ เช่น สาธารณรัฐชิลี สหพันธรัฐรัสเซีย และเกาหลีใต้ ในการเดินทางระหว่างสถานีที่อยู่บนผืนแผ่นดินเดียวกันสามารถเดินทางไปได้ด้วยรถตีนตะขาบ

รูปที่ 16 ยานพาหนะตีนตะขาบที่ใช้ในการเดินทางบนเกาะคิงจอร์จ ยกเว้น สถานีวิจัยของเกาหลีใต้ ที่ต้องเดินทางด้วยเรือยาง

รูปที่ 17 การเดินทางด้วยเรือยางของทีมนักวิจัย เนื่องจากรถตีนตะขาบไม่สามารถขับผ่านธารน้ำแข็ง Collins Glacier ได้

รูปที่ 18 ธารน้ำแข็ง Collins Glacier

     ในแต่ละสถานีวิจัยจะมีความรูปแบบและอุปกรณ์ที่นำมาจากประเทศนั้นๆ ทำให้นักวิจัยมีความรู้สึกเหมือนอยู่ในประเทศของตนเอง อาทิเช่น สถานีวิจัยของสาธารณรัฐชิลีและสหพันธรัฐรัสเซีย ส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์ ทำให้ทั้งสองสถานีมีการสร้างโบสถ์ไว้ในสถานีด้วย

รูปที่ 19 โบสถ์ของสถานีวิจัยสาธารณรัฐชิลี

     โดยโบสธ์ของสถานีสหพันธรัฐรัสเซียมีลักษณะที่โดดเด่น เนื่องจากเป็นโบสธ์ไม้นิกายออร์โธดอกซ์ซึ่งแต่เดิมอยู่ที่สหพันธรัฐรัสเซียแต่ได้มีการย้ายมาประกอบใหม่ที่ขั้วโลกใต้

รูปที่ 20 โบสถ์ของสถานีวิจัยสหพันธรัฐรัสเซีย

    นอกจากแต่ละทีมจะมีงานวิจัยของตัวเองที่ต้องทำแล้ว เรายังสามารถไปช่วยทีมอื่นๆ ในการทำวิจัยได้ด้วย ซึ่งเป็นการดีในการที่เราจะได้เรียนรู้งานวิจัยด้านอื่นๆ ไปด้วย เช่น งานวิจัยเกี่ยวกับการใช้เครื่องบินบังคับในการถ่ายรูปเพื่อทำแผนที่ทางอากาศ ทำให้ได้ภาพที่มีความคล้ายคลึงกับภาพถ่ายจากดาวเทียม นักวิจัยใช้ภาพเหล่านี้ในการสำรวจจำนวนสิ่งมีชีวิต เช่น แพนกวินหรือแมวน้ำ โดยที่เราไม่ต้องออกเดินทางสำรวจและสามารถทำได้จากระยะไกล

รูปที่ 21 งานวิจัยการใช้เครื่องบินบังคับในการถ่ายรูปเพื่อทำแผนที่ทางอากาศ

    โบสถ์ของสถานีวิจัยสหพันธรัฐรัสเซีย นอกจากทีมวิจัยของประเทศไทยแล้ว ในสถานีเกรทวอลล์ยังมีทีมนักวิจัยของประเทศโปรตุเกสจำนวน 2 คน ขอเข้าร่วมทำงานวิจัยที่สถานีนี้ด้วย พวกเขาได้ทำการศึกษาอัตราการใช้ออกซิเจนของปลาเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ

รูปที่ 22 ทีมนักวิจัยของประเทศโปรตุเกส

    นอกจากการทำงานงานวิจัยแล้ว ทีมนักวิจัยยังมีหน้าที่ในการช่วยขนย้ายสิ่งของ รวมทั้งอาหารที่เป็นเสบียงให้กับทีมวิจัยที่ต้องอาศัยอยู่ที่สถานีตลอดระยะเวลา 1 ปีเต็ม

รูปที่ 23 ทีมนักวิจัยช่วยกันขนย้ายสิ่งของ รวมทั้งอาหารที่เป็นเสบียง

    เสบียงส่วนใหญ่จะถูกส่งมาในตู้คอนเทนเนอร์ของเรือ ซู่หลง (Zhou Long Ship) ซึ่งเป็นเรือตัดน้ำแข็งขนาดใหญ่ของสาธารณรัฐประชาชนจีน

รูปที่ 24 เรือ ซู่หลง (Zhou Long Ship) เรือตัดน้ำแข็งของสาธารณรัฐประชาชนจีน

     สำหรับเวลาว่างหลังรับประทานอาหารเย็น เราสามารถออกกำลังกายได้ในสถานี ซึ่งมีโรงยิมสำหรับเล่นบาสเกตบอลและแบดมินตัน และยังมีการจัดแข่งขันกันเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรีระหว่างนักวิจัยภายในสถานีอีกด้วย

รูปที่ 25 กิจกรรมยามว่างของนักวิจัย