
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
ทรง เปิด “ศูนย์แก้ไขความพิการบนใบหน้า ฯ

จากนั้น เสด็จพระราชดำเนิน ไปยังพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ทรงวางพุ่มดอกไม้ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายสักการะ และเสด็จฯ เข้าสู่พลับพลาพิธี ศาสตราจารย์ ดร.ไพรัช ธัชยพงษ์ ทูลเกล้าฯ ถวายเอกสารสถิติผู้ป่วย ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ทูลเกล้าฯ ถวายเอกสารสถิติการใช้เทคโนโลยีของ สวทช. ผศ.นพ.กฤษณ์ ขวัญเงิน ทูลเกล้าฯ ถวายสูจิบัตร ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นพ.เกษม วัฒนชัย กราบบังคมทูลสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พร้อมรายงานความเป็นมาของการจัดตั้งศูนย์แก้ไขความพิการบนในหน้าและกะโหลกศีรษะ มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริฯ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่และกราบบังคมทูลเบิกคณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นผู้แทนคณะกรรมการอำนวยการศูนย์แก้ไขความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะฯ เข้ารับพระราชทานเข็มที่ระลึก จากนั้นสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนิน ไปยังแท่นทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดแพรคลุมป้าย “ศูนย์แก้ไขความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะ มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริ ฯ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่” เสด็จพระราชดำเนินไปยังบริเวณด้านหน้าอาคารสุจิณโณ ทรงวางพวงมาลัยถวายสักการะรูปเหมือนหลวงปู่แหวน สุจิณโณ ฉายพระฉายาลักษณ์ร่วมกับคณะกรรมการ ผู้บริหารและบุคลากรของศูนย์แก้ไขความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะฯ จากนั้นเสด็จพระราชดำเนิน ไปยังสำนักงานศูนย์แก้ไขความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะฯ บริเวณชั้น ๓ อาคารตะวัน กังวานพงศ์ ทอดพระเนตรนิทรรศการแสดงประวัติความเป็นมาและการดำเนินงานของศูนย์แก้ไขความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะฯ ได้แก่ การดำเนินงานด้านการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อช่วยในการตรวจวินิจฉัยและวางแผนการรักษาผู้ป่วยที่มีความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะ การดำเนินงานด้านการรักษาผู้ป่วยทางคลินิกและผลลัพธ์การรักษา การติดตามผู้ป่วยที่ไม่ได้เข้ารับการรักษาตามนัดผ่านช่องทางต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ป่วยได้เข้ารับการรักษาในช่วงเวลาที่เหมาะสมต่อเนื่อง รวดเร็ว ลดการเดินทางที่ไม่จำเป็น และการดำเนินงานด้านเครือข่ายความร่วมมือในการดูแลผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่และพิการบริเวณใบหน้าและกะโหลกศีรษะ ๘ จังหวัดภาคเหนือตอนบน จากนั้นทรงเยี่ยมผู้ป่วยที่มีความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะที่มาเฝ้าฯ รับเสด็จ
การดำเนินงานด้านการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการสนับสนุนและวางแผนการรักษาผู้ป่วยที่มีความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะ มีตัวอย่างเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่นำมาจัดแสดง อาทิ• เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สามมิติลำรังสีทรงกรวยแบบเคลื่อนย้ายได้ ภายใต้ชื่อ MobiiScan (โมบีสแกน) ผลงานวิจัยและพัฒนาโดย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช. โดยความร่วมมือของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย คณะแพทยศาสตร์และคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งเครื่อง MobiiScan ได้ผ่านการทดสอบความปลอดภัยทางด้านรังสีจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ทางด้านไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์จากศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (PTEC) และผ่านการทดสอบคลินิกเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 13485 มีคุณสมบัติเด่น คือ เป็นเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สามมิติแบบเคลื่อนย้ายได้ง่ายและผู้ป่วยได้รับปริมาณรังสีที่น้อยกว่าเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ทางการแพทย์ ใช้ถ่ายอวัยวะภายในบริเวณใบหน้าและกะโหลกศีรษะ เพื่อตรวจวินิจฉัยและวางแผนการผ่าตัดรักษา ทำให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่มีประสิทธิภาพและทันท่วงที ซึ่งเครื่อง MobiiScan ที่นำมาติดตั้งที่ศูนย์แก้ไขความพิการบนในหน้าและกะโหลกศีรษะฯ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากมูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี โดยเป็นงบประมาณที่ทางมูลนิธิทุนท่านท้าวมหาพรหมโรงแรมเอราวัณ ได้บริจาคเงินให้แก่มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริฯ เพื่อสนับสนุนการสร้างเครื่อง MobiiScan รวมทั้งอุปกรณ์อื่นที่จำเป็นให้แก่ศูนย์แก้ไขความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะฯ

• การใช้เครื่องพิมพ์ ๓ มิติ (3D Printing) ในการสร้างแบบจำลอง ๓ มิติเสมือนจริงจากภาพถ่ายรังสีทางการแพทย์ของผู้ป่วยที่มีความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะ เพื่อใช้ในการวางแผนการรักษาและการผ่าตัด ซึ่งข้อดีของการสร้างแบบจำลอง ๓ มิติ ช่วยลดระยะเวลาการผ่าตัด ผู้ป่วยฟื้นตัวจากการผ่าตัดได้เร็วขึ้น และสามารถคาดการณ์ผลการผ่าตัดได้แม่นยำมากขึ้น
• โปรแกรม Thai Cleft Link เป็น Web application ที่สามารถใช้งานผ่าน Browser ทั่วไปเพื่อจัดเก็บฐานข้อมูลผู้ป่วยภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ โดยเชื่อมโยงการทำงานระหว่างทีมเครือข่ายบุคลากรทางการแพทย์ในเชิงบูรณาการแบบสหวิทยาการ ซึ่งใช้ข้อมูลเดินทางแทนการเดินทางจริงของผู้ป่วย โดยทีมผู้รักษาไม่จำเป็นต้องอยู่ในพื้นที่เดียวกัน

ศูนย์แก้ไขความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะ มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริ ฯ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ก่อตั้งขึ้นด้วยความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช. ในปี พ.ศ. ๒๕๖๒ ตามพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อเป็นศูนย์กลางการดูแล รักษาผู้ป่วยยากไร้กลุ่มโรคปากแหว่ง เพดานโหว่ และความพิการอื่น ๆ บนใบหน้าหรือกะโหลกศีรษะแต่กำเนิด เช่น โรคงวงช้าง โรคใบหน้าเล็ก โรคใบหน้าแหว่ง เป็นต้น โดยศูนย์ฯได้สร้างเครือข่ายการให้บริการครอบคลุมในเขตพื้นที่ ๘ จังหวัดภาคเหนือตอนบน ประกอบด้วย เชียงใหม่ ลำปาง แม่ฮ่องสอน เชียงราย แพร่ น่าน ลำพูน และพะเยา รวมทั้งขอบชายแดนไทย-เมียนมาร์ (อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก) ผลการดำเนินงานนับตั้งแต่จัดตั้งศูนย์ฯ จนถึงปัจจุบันมีความก้าวหน้าในการใช้นวัตกรรมเพื่อตรวจรักษาและผ่าตัดแก้ไขความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะให้แก่ผู้ป่วย ส่งผลให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นเป็นลำดับ

ภาพ / ข่าว : กลุ่มงานสื่อสารองค์กร งานประชาสัมพันธ์
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
และฝ่ายประชาสัมพันธ์ สวทช.