โครงงานหุ่นยนต์เก็บขยะชายหาด (RPG48 Beach Cleaning Robot)
ระดับ  มัธยมศึกษาตอน ต้น
ประเภท โครงงานสิ่งประดิษฐ์เพื่อศึกษาและดูแลสิ่งแวดล้อม

ผู้จัดทำ
นายชยางกูร ระยับศรี
เด็กชายกฤษณพล ประจวบสุข
เด็กหญิงธัญพร ทองสา

อาจารย์ที่ปรึกษา:
นางสาวเบญจวรรณ สังวัง
นายสิรวิชญ์ ษรจันทร์ศรี

สถานศึกษา :

ราชประชานุเคราะห์ ๔๘ จังหวัดจันทบุรี

ความเป็นมา

จังหวัดจันทบุรีเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ติดชายฝั่งทะเลอ่าวไทยซึ่งเป็นจังหวัดที่มีความสวยงามทางธรรมชาติที่หลากหลาย เช่น ภูเขา น้ำตก ทะเล จึงถือเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวที่ การท่องเที่ยวจึงมีความสำคัญในด้านเศรษฐกิจของจังหวัดจันทบุรี ซึ่งจากการ สังเกตหลายครั้งในพื้นที่ชายฝั่งทะเล หรือบริเวณชายหาด ในช่วงมรสุม ช่วงคลื่นทะเลซัดขึ้นฝั่ง จะพบเศษขยะลอยมาเกยบนชายหาดทำให้ทัศนียภาพของชายหาดท่องเที่ยวสกปรกเต็มไปด้วยขยะซึ่งบางครั้งก็ชาวบ้าน ผู้ประกอบการในแหล่งท่องเที่ยว ในพื้นที่ช่วยกันเก็บขยะบนชายหาดอยู่บ่อยครั้ง แต่ยังไม่เพียงพอ เนื่องจากพื้นที่ชายหาดมีความยาว มีบุคลากรน้อย และคลื่น ซัดขยะ ๆ มาเรื่อย ๆ ทุกวัน ส่งผลให้เกิดปัญหาสภาพแวดล้อมของแหล่งท่องเที่ยวชายทะเลไม่สวยงาม ทำให้นักท่องเที่ยวน้อยลง อันจะส่งผลกระทบในด้านเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของจังหวัด และผู้ค้ารายย่อยในพื้นที่ท่องเที่ยว ดังนั้น คณะผู้จัดทำจึงเล็งเห็นว่า ควรนำความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้สิ่งประดิษฐ์สมองกลฝังตัว มาสร้างสิ่งประดิษฐ์ที่ สามารถช่วยทำความสะอาด เก็บขยะบริเวณพื้นที่ชายหาด ที่สามารถเก็บขยะชิ้นเล็กชิ้นน้อย ที่เก็บยากๆ ได้ โดยใช้งานทั้ง ระบบอัตโนมัติ และระบบแมนนวล ควบคุมโดยใช้การเขียนโปรแกรมลงในบอร์ดKid Bright เพื่อให้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ประโยชน์ได้ต่อไป

รายงานฉบับสมบูรณ์ (PDF)

Clip VDO 

โปสเตอร์ (PDF)

 โครงงานถังขยะฆ่าเชื้ออัตโนมัติ
ระดับ มัธยมศึกษาตอน ต้น
ประเภท โครงงานสิ่งประดิษฐ์เพื่อศึกษาและดูแลสิ่งแวดล้อม

ผู้จัดทำ
เด็กหญิงภัณฑิรา ทองประดิษฐ์
เด็กหญิงภัคจีรา ทันปัญญาเลิศ

อาจารย์ที่ปรึกษา:
นายจิรันดร เองศิลป์
นายธนรักษ์ คํามาลา

สถานศึกษา :

โรงเรียนสบเมยวิทยาคม

ความเป็นมา

ปัจจุบันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 เป็นโรคติดเชื้อที่มีการแพร่ระบาดกระจายเป็นวงกว้าง ส่งผล กระทบต่อสุขภาวะร่างกาย และชีวิตของบุคคลที่ได้รับเชื้อ โดยติดเชื้อผ่านการสัมผัสใกล้ชิดเป็นหลัก มักผ่าน ละอองเสมหะขนาดเล็กที่เกิดจาก การไอ จาม หรือสนทนา จึงมีวิธีการป้องกันในการรับมือกับเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 เป็นวิธีการป้องกันที่ยอมรับและปฏิบัติทั่วโลก โดยหลัก ๆ คือ เว้นระยะห่าง ลดการสัมผัส และการสวม หน้ากากอนามัย ซึงในปัจจุบันผู้คนมีการใช้หน้ากากอนามัยอย่างแพร่หลาย สวมใส่จนเป็นสิ่งหนึ่งของ ชีวิตประจําวัน แต่หลังจากการสวมใส่หน้ากากอนามัย ผู้คนส่วนใหญ่ทิ้งหน้ากากอนามัยปนกับขยะทั่วไป โดยไม่ กําจัดอย่างถูกวิธี ทําให้บุคคลอื่นอาจติดเชื้อได้จากการสัมผัสพื้นผิวที่ปนเปื้อนแล้วนํามาแตะตา จมูกหรือปากของ ตน และได้รับเชื้อต่อได้ ดังนั้น ผู้จัดทําจึงได้เล็งเห็นปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะในโรงเรียนของผู้จัดทํา ที่นักเรียนส่วนใหญ่ ทิ้งหน้ากากอนามัยปนกับขยะทั่วไป โดยไม่มีการแยกประเภทของขยะ ซึ่งหน้ากากอนามัยใช้แล้วถือเป็นขยะติด เชื้อ และขยะอันตราย อาจเกิดการแพร่กระจายของเชื้อ เมื่อไม่ได้รับการกําจัดอย่างถูกวิธี กลุ่มของผู้จัดทําจึงได้คิด วิธีแก้ปัญหาโดยการสร้างโครงงานถังขยะฆ่าเชื้ออัตโนมัติ ผ่านระบบเซนเซอร์ โดยการเขียนโค้ดผ่านโปรแกรม KB- IDE เพื่อลดการสัมผัสตัวถังขยะและการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส โคโรน่า 2019

รายงานฉบับสมบูรณ์ (PDF)

Clip VDO 

โปสเตอร์ (PDF)

โครงงานถังกรองบ่อปลาคราฟอัตโนมัติ
ระดับ มัธยมศึกษาตอน ต้น
ประเภท โครงงาน/สิ่งประดิษฐ์เพื่อศึกษาและดูแลสิ่งแวดล้อม

ผู้จัดทำ
สามเณรธีรยุทธ พัฒน์จีน
สามเณรณัฐพล คำเพ็ง

อาจารย์ที่ปรึกษา:
พระใบฎีกานราธิปพงศ์ ฐิตเมโธ

สถานศึกษา :

โรงเรียนน้ำไคร้วิทยา จังหวัดน่าน

ความเป็นมา

ปลาคราฟ เป็นปลาสวยงามที่คนนิยมเลี้ยงกันอย่างกว้างขวาง การเลี้ยงปลาคราฟนั้นมีหลายๆปัจจัยที่ต้องคอยดูแล หนึ่งในหลายๆปัจจัยที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของปลาคราฟคือ น้ำ ซึ่งน้ำเปรียบเสมือนบ้านของปลา คุณภาพของ น้ำมีผลต่อการเจริญเติบโตของปลา ในการเลี้ยงปลาคราฟนั้น ส่วนของระบบกรองน้ำ เป็นส่วนที่สำคัญ ที่จะช่วยให้คุณภาพของน้ำในบ่อปลาคราฟมีคุณภาพที่ดี ส่งผลให้ปลามีสุขภาพที่แข็งแรง เพราะในส่วนระบบกรองจะเป็นส่วนที่ช่วยกรองสิ่งปฏิกูลจากบ่อปลา ถังกรองบ่อปลาคราฟจึงเป็นที่สะสมของสิ่งปฏิกูล ถ้าละเลยในการทำความสะอาด จะทำให้คุณภาพของการกรองน้ำลดประสิทธิภาพลง กลุ่มของข้าพเจ้า จึงคิดวิธีการล้างถังกรองบ่อปลาคราฟอัตโนมัติ เพื่อให้การล้างเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ ลดการใช้เวลาและแรงงานลง

รายงานฉบับสมบูรณ์ (PDF)

Clip VDO 

โปสเตอร์ (PDF)

โครงงานระบบเตือนภัยน้ำท่วมด้วยบอร์ดคิดไบร์ฺท
ระดับ มัธยมศึกษาตอน ต้น
ประเภท โครงงานสิ่งประดิษฐ์เพื่อศึกษาและดูแลสิ่งแวดล้อม

ผู้จัดทำ

นายพงศกร แซ่อึ้ง
นายกิ่งทอง ประยูรมหิศร
นายธีรภัทร พุ่มเฉลียว
อาจารย์ที่ปรึกษา:

นางสาวณัฐฐาพร เนียมทอง
นายเลิศศักดิ์ กาจหาญ

สถานศึกษา :

โรงเรียนศึกษาพิเศษชัยนาท

ความเป็นมา

ปีพุทธศักราช 2554 ประเทศไทยประสบปัญหาอุทกภัยครั้งรุนแรงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปลายปี และมีพื้นที่ประสบภัยกระจายตัวในทุกภาคของประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลางที่เกิดน้ำท่วมหนักเป็นระยะเวลานาน ยิ่งไปกว่านั้นพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เป็นพื้นที่หนึ่งซึ่งเกิดน้ำท่วมหนักในรอบ 70 ปี จังหวัดชัยนาทเป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ทางภาคกลางตอนบน พื้นที่ภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย และแม่น้ำท่าจีนไหลผ่านพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วทุกอำเภอ มีเขื่อนเจ้าพระยาซึ่งเป็นเขื่อนทดน้ำกั้นลำน้ำเจ้าพระยา ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอสรรพยา เมื่อถึงฤดูฝนของแต่ละปี หากมีฝนตกมากอาจทำให้น้ำเหนือไหลบ่า ส่งผลให้น้ำล้นตลิ่ง หรือน้ำท่วมขังบริเวณที่ลุ่มแอ่งกระทะ ซึ่งอาจสรุปได้ว่าการเกิดอุทกภัยของจังหวัดชัยนาท มีสาเหตุหลัก 2 สาเหตุ ดังนี้ อุทกภัยที่เกิดจากฝนตกในพื้นที่ โดยเมื่อเกิดฝนตกหนักจะทำให้น้ำไหลหลากเข้าพื้นที่ และเกิดน้ำท่วมขัง น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก พื้นที่เสี่ยงน้ำป่าไหลหลาก อุทกภัยที่เกิดจากน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ ซึ่งจะเกิดขึ้นในบริเวณพื้นที่ที่แม่น้ำสายหลักไหลผ่าน หากน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา มีปริมาณมากตั้งแต่ 2,500 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ขึ้นไป จะส่งผลให้ น้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ และต้องคอยเฝ้าระวังในทุก ๆ ปี ที่มีปริมาณน้ำฝนมากกว่าปกติ โรงเรียนศึกษาพิเศษชัยนาท เป็นโรงเรียนเฉพาะความพิการในพื้นที่ภาคกลางที่จัดการศึกษาให้กับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางด้านร่างกายหรือการเคลื่อนไหวหรือสุขภาพ เป็นลักษณะโรงเรียนอยู่ประจำและไปกลับ จัดการศึกษาตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งที่ตั้งของโรงเรียน ตั้งอยู่เหนือเขื่อนเจ้าพระยา และเป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่ได้รับความเสียหายจากการเกิดน้ำท่วมแบบฉับพลัน จากปัญหาอุทกภัย ในครั้งนั้น และทุก ๆ ปีที่มีปริมาณน้ำฝนมากกว่าปกติ มักจะเกิดปัญหาน้ำท่วม ซึ่งที่ผ่านมาทางโรงเรียน ไม่สามารถแจ้งเตือนให้แก่ครู นักเรียน และบุคลากรให้ระมัดระวัง เพราะเนื่องจากนักเรียนมีข้อจำกัดทาง ด้านกายภาพ ทำให้การเคลื่อนย้ายตัวเองลำบาก และต้องใช้เวลามากกว่าปกติ จึงทำให้ไม่ทันเวลา เมื่อเกิดน้ำท่วมแบบฉับพลัน และยังขาดเครื่องมือในการแจ้งเตือนอุทกภัย ดังนั้นคณะผู้จัดทำ ครูที่ปรึกษาโครงงาน จึงเกิดแนวคิดที่จะพัฒนา “ระบบเตือนภัยน้ำท่วมด้วยบอร์ด KidBright (Flood warning system project with KidBright board.)” ขึ้น เพื่อสร้างเครื่องมือที่จะช่วยแจ้งเตือนภัยน้ำท่วมได้ โดยจะมีการแจ้งเตือนผ่าน 3 ช่องทาง ได้แก่ 3 ช่องทาง ได้แก่ 1) การแจ้งเตือนผ่านทางสัญญาณไฟ 2) การแจ้งเตือนผ่านทางเสียงเตือน 3) การแจ้งเตือนผ่านระบบ Line (Line Notify) พร้อมขึ้นข้อความ วันที่ เวลาและสติ๊กเกอร์เตือนภัยพร้อมระบบการทำงานของ Servo ซึ่งจะสามารถช่วยให้ ครู บุคลากร และนักเรียนได้รับทราบเมื่อเกิดน้ำท่วมในบริเวณโรงเรียน เพื่อจะได้เตรียมพร้อมรับมือกับการเกิดน้ำท่วมได้

รายงานฉบับสมบูรณ์ (PDF)

Clip VDO 

โปสเตอร์ (PDF)