โครงงานเครื่องเตือนการกินยา
(ม.ต้น)

ผู้จัดทำ

1. เด็กหญิงธัญชนก   แปงสุข               ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
2. เด็กหญิงอัจฉราพันธ์   เรือนน้อย      ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
3. เด็กหญิงอณุสรณ์   แซ่ม้า                 ชั้นมัธยมศึกษาปี่ที่ 3

อาจารย์ที่ปรึกษา: นายวีรศักดิ์    เป้รอด และนางสาวมติกา   ใจธรรม

สถานศึกษา : โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์จิตต์อารีฯ ลำปาง

บทนำ

ความสำคัญและที่มา

ปัจจุบันผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวโดยเฉพาะผู้สูงอายุซึ่งต้องการรักษาโดยแพทย์เฉพาะทางและได้รับยามารับประทานอย่างไม่ขาด เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ เป็นต้น จำเป็นต้องได้รับยาอย่างสม่ำเสมออย่างต่อเนื่อง การลืมรับประทานยา หรือรับประทานยาไม่ตรงเวลาก็เป็นปัจจัยที่เป็นอุปสรรคต่อกระบวนการรักษา ถ้าผู้ป่วยลืมรับประทานยาหรือการรับประทานยาไม่ตรงเวลาก็ส่งผลในการรักษาด้วย ดังนั้น โครงงานสิ่งประดิษฐ์เครื่องเตือนการกินยาของผู้ป่วยจึงได้เกิดขึ้นเพื่อเป็นประโยชน์ของผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว ในกรณีที่ผู้ป่วยต้องเดินทางไปต่างจังหวัด หรือติดธุระนอกบ้านก็สามารถเตือนการการรับประทานยาโดยนำโทรศัพท์เคลื่อนที่ไปด้วย

วัตถุประสงค์

1.  ออกแบบและสร้าง เครื่องเตือนการกินยาของผู้ป่วย
2. ประเมินการใช้งานของ เครื่องเตือนการกินยาของผู้ป่วย ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้

2.1. สามารถจ่ายยาได้ตามเวลาที่กำหนด

2.2. สามารถตรวจสอบได้ว่าผู้ป่วยได้มีการนำยาออกไปจากกล่องหรือไม่โดยแจ้งเตือนทาง Application Line

ความรู้ที่เกี่ยวข้อง

– ใช้หลักการทางฟิสิกส์ คำนวณกระแสไฟฟ้าของเครื่องเตือนการกินยาของผู้ป่วย  และวัดระยะวางของเซนเซอร์ตรวจจับวัตถุ

– ใช้หลักการทางคณิตศาสตร์ ในการคำนวน ความยาว (S) ความสูง (H) ส่วนโค้ง ขนาดของโครงสร้าง ของเครื่องเตือนการกินยาของผู้ป่วย

– ใช้หลักการในเทคโนโลยี ในการเขียนโปรแกรมภาษาไพทอน (Python)  ภาษาซี (C)  และโปรแกรม KidBright IDE  เพื่อการควบคุมการทำงานของเครื่องเตือนการกินยาของผู้ป่วย  และใช้อุปกรณ์อิเล็กสืทรอนิกส์ต่างๆ ในการประกอบชิ้นงาน

รายงานฉบับสมบูรณ์ (PDF File)

Clip VDO 

โปสเตอร์ (PDF File)

โครงงานเครื่องโจกคราม
(ม. ต้น)

ผู้จัดทำ

1. เด็กหญิงชนัญชิดา  ทิพย์ศรี
2. เด็กหญิงสุพิชญา  เดชา
3. เด็กหญิงฐิติกานต์  วงษ์หมอก

อาจารย์ที่ปรึกษา:

1. นายสานิต โลบภูเขียว
2. นายณัฐพล  วงษ์ยอด
3. นายนวภพ  เชื้อคำเพ็ง

สถานศึกษา : โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๕๓ จังหวัดสกลนคร

บทนำ

ที่มาและความสำคัญ

เนื่องจากจังหวัดสกลนครได้รับการยกย่องให้เป็นจังหวัดครามโลก สืบเนื่องมาจากในอดีตยังไม่มี หลักฐานปรากฏแน่ชัดว่าการย้อมครามเกิดขึ้นเมื่อใด แต่มีการผลิตและใช้ผ้าครามในชนเผ่าภูไท สกลนครเป็น จังหวัดแรกของประเทศไทยที่ฟื้นฟูภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านการทอผ้าย้อมคราม และพัฒนาผ้าย้อมครามให้มี มาตรฐานสามารถนำผลิตภัณฑ์ผ้าครามจากภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้าแทรกตลาดที่กำลังกลับมาบริโภคผลิตภัณฑ์ที่ ปลอดสารเคมีและไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้เกิดเป็นผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่น แปลกใหม่ และมีเอกลักษณ์ เฉพาะตัวสำหรับท้องถิ่น เกิดเป็นสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายทั้ง ภายในประเทศและต่างประเทศ

โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๕๓ จังหวัดสกลนครเป็นโรงเรียนประจำที่ส่งเสริมให้นักเรียนที่จบ การศึกษาออกไปได้มีอาชีพติดตัวไปเพื่อการเลี้ยงชีพตัวเอง ซึ่งหนึ่งกิจกรรมที่นักเรียนให้ความสนใจและสร้าง รายได้ให้กับนักเรียนคือ “กิจกรรมผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติ” โดยใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านของคนในท้องถิ่น และเป็นการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบบูรณาการ การจัดกิจกรรมลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ ในแต่ละวันนักเรียนจะ ใช้เวลาในชั่วโมงเรียนและช่วงเย็นหลังเลิกเรียนเพื่อไปมัดย้อมผ้าคราม และดูแลหม้อครามให้พร้อมแก่การมัด ย้อมอยู่ตลอดเวลา

โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๕๓ จังหวัดสกลนครได้มีโอกาสเข้าร่วมโครงการไอซีทีสร้างรายได้ ทำให้ มีการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์จากผ้ามัดย้อมครามเป็นจำนวนมาก นักเรียนจึงผลิตเพื่อจำหน่ายในทุกวัน และทาง โรงเรียนได้เข้าร่วมโครงการพัฒนาทักษะด้านอิเล็กทรอนิกส์และการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ได้นำเอา ความรู้ที่ได้รับจากการเข้าร่วมอบรมมาเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตตัวสินค้าหรือตัวผลิตภัณฑ์และ กรรมวิธีในการผลิตผ้าย้อมคราม โดยการโจกน้ำครามอัตโนมัติ

วัตถุประสงค์

๑. เพื่อออกแบบและสร้างเครื่องโจกน้ำครามอัตโนมัติ

๒. เพื่อเพิ่มทักษะกระบวนการทางวิศวกรรมและสร้างรายได้ให้กับนักเรียน

สมมติฐาน

เครื่องโจกครามสามารถทำงานได้โดยอัตโนมัติ

ขอบเขตของโครงงาน

1. เซนเซอร์วัดค่า pH ไม่สามารถจุ่มลงในน้ำครามได้ตลอดเวลา
2. เครื่องโจกครามทำงานวันละ 2 ครั้ง

นิยามศัพท์

เครื่องโจกครามอัตโนมัติ คือ เครื่องตักน้ำครามในรูปแบบของการสูบน้ำครามเพื่อเติมออกซิเจนให้กับน้ำครามได้ในเวลา 07.00 น. และเวลา 16.00 น. ช่วงเวลาละ 10 ครั้ง และส่งข้อมูลไปยังแอพพลิเคชันไลน์

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

๑. ได้เครื่องโจกน้ำครามอัตโนมัติ

๒. เกิดความสะดวกสบายกับเกษตรกรผู้ทำผ้าคราม

รายงานฉบับสมบูรณ์ (PDF File)

Clip VDO 

โปสเตอร์ (PDF File)

โครงงานเครื่องปั๊มเจลและวัดอุณหภูมิอัตโนมัติ
(ม.ต้น)

 ผู้จัดทำ

1. นายฑีฆพล คูณแสน
2. นางสาวฟ้าสวย ศรีใสทอง
3. นางสาวบัณฑิตา ดอนสินเพิ่ม

อาจารย์ที่ปรึกษา:นายคมกริช บุตรอุดม,นางสาวฐิติมา ผ่องแผ้ว

สถานศึกษา :โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ธวัชบุรี  จ.ร้อยเอ็ด

บทนำ

โครงงานสิ่งประดิษฐ์สมองกลฝังตัว เรื่อง เครื่องปั๊มเจลอัตโนมัติ พร้อมวัดอุณหภูมิ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างและออกแบบเครื่องปั้มเจลอัตโนมัติ พร้อมวัดอุณหภูมิ หลักการทำงานของเครื่องปั๊มเจลและวัดอุณหภูมิอัตโนมัติ คณะผู้จัดทำได้นำ แนวคิดและหลักการพัฒนาได้นำบอร์ด KidBright เป็นอุปกรณ์ควบคุมการทำงานจากการเขียนโปรแกรม KB LDE เพื่อสั่งให้อุปกรณ์ทำงานตามเงื่อนไขที่กำหนดให้ คือ เริ่มต้นจะสั่งงานให้เซนเซอร์วัตถุตัวที่ 1 2 และเซนเซอร์วัดอุณหภูมิ เซนเซอร์ตรวจจับวัตถุวัดระยะของวัตถุอยู่ในระยะ 30 เซนติเมตร เซนเซอร์จะเคลื่อนที่ขึ้นตามความสูงของวัตถุแล้ววัดอุณหภูมิร่างกาย โดยกำหนดให้อุณหภูมิร่างกายน้อยกว่า 38 องศา จะขึ้นไฟเขียว แต่ถ้าอุณหภูมิร่างกายมากกว่า 38 องศา จะขึ้นไฟแดงและมีเสียงแจ้งเตือน ตรวจวัดอุณหภูมิเสร็จจะทำการส่งค่าไปยังบอร์ดเพื่อบอกอุณหภูมิร่างกาย ต่อมาจะวัดระยะของเครื่องปั้มเจลโดยกำหนดให้เซนเซอร์ตรวจจับวัตถุถ้าพบอยู่ในระยะ 4 เซนติเมตรจะทำการปั้มเจลอัตโนมัติ

จากการศึกษาพบว่าผลที่เกิดจากการเขียนโปรแกรม KidBrght LDE เมื่อใช้ควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ที่ออกแบบ เครื่องปั้มเจลและวัดอุณหภูมิอัตโนมัติ โปรแกรมสามารถทำงานตามเงื่อนไขที่กำหนด

รายงานฉบับสมบูรณ์ (PDF File)

Clip VDO 

โปสเตอร์ (PDF File)

โครงงานแจ้งเตือนการเข้า-ออก
ของรถยนต์ผ่านแอปพลิเคชั่น Line
(ม.ต้น)

ผู้จัดทำ

1. เด็กหญิงลักษิกา   เต้าทอง          ม.2/1
2. เด็กหญิงญาณิศา  มุ่งงาม           ม.2/1

อาจารย์ที่ปรึกษา: นางพิทย์ระมัย  วรสาร และนายสิทธิพล  ใจตรง

สถานศึกษา :โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 54  จังหวัดอำนาจเจริญ

บทนำ

ปัจจุบันปัญหาในสังคมไทยมีมากมายหลายอย่าง เช่น ปัญหาอาชญากรรม,  ปัญหายาเสพติด,ปัญหาสิ่งแวดล้อม    และปัญหาเศรษฐกิจเป็นต้น ทำให้แต่ละคนต่างดิ้นรนหาทางเพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้โดยอาจใช้วิธีการทั้งที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย การลักขโมยรถยนต์ก็เป็นอีกปัญหาหนึ่งเช่นกันที่มีเป็นจำนวนมากในทุกวันนี้

ผู้จัดทำโครงงานจึงได้คิดค้นประดิษฐ์อุปกรณ์  แจ้งเตือนการเข้า-ออกของรถยนต์ผ่านอปพลิเคชั่นLine  เพื่อเป็นการป้องกันการถูกขโมยรถยนต์อีกทางหนึ่ง

รายงานฉบับสมบูรณ์ (PDF File)

Clip VDO 

โปสเตอร์

โครงงานโรงตากปลาฉิ้งฉั้งผ่านระบบ IOT
(ม.ต้น)

ผู้จัดทำ

1. เด็กหญิงชาลิสา ทองอาญา
2. เด็กหญิงธนัชพร ช่วยงาน
3. เด็กชายรังสิมังค์ ปรีชา

อาจารย์ที่ปรึกษา:1.นายนพดล พุทธพฤกษ์ 2.นายชลธีวิเศษศิริ

สถานศึกษา :โรงเรียนราชประชานุเคราะห์37 จังหวัดกระบี่

บทนำ 

     ประเทศไทยของเรานั้นมีอาชีพหลากหลายอาชีพที่ประชาชนส่วนใหญ่มักนำไปทำเพื่อหารายได้เลี้ยงชีพ ปัจจุบันอาชีพชาวประมงเป็นที่นิยมกันมากหลาย โดยทางบ้านของผู้จัดทำก็ทำการประกอบอาชีพ ประมง โดยนำปลาที่ได้มานั้นทำการอบแห้งและแปรรูป โดยปลาที่นำมาใช่ส่วนใหญ่ คือ ปลาฉิ้งฉ้าง หรือ ปลากะตัก ซึ่งเป็นปลาประเภทเดียวกับปลากะตักของภาคกลาง เป็นปลาผิวน้ำขนาดเล็ก อาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูง ลำตัวเรียวยาว และแบนข้าง มีสันหนามที่ท้อง ขากรรไกรบนยาวเลยหลังตา ครีบหลังตอนเดียว ครีบหางเว้าลึก มีแถบสีเงินพาดผ่านในแนวยาวของลำตัว มีการจับปลาชนิดนี้มากในทะเลอันดามัน ซึ่งปลาฉิ้งฉ้างถือเป็นสินค้าส่งออกที่ทำรายได้ให้กับประเทศอันดับต้น ๆ เพราะสามารถส่งไปขายทั่วทุกภาคของประเทศ และส่งจำหน่ายในต่างประเทศด้วย โดยเฉพาะประเทศแถบเอเซีย เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ บรูไน หลายคนยังเข้าใจผิดกับคำว่า “จิ้งจัง” มักนำไปเรียกเรียกปลากะตักตัวเล็กๆที่ตากแห้งหรืออบกรอบว่า “ปลาจิ้งจัง” แท้ที่จริงปลากะตักอบกรอบสมุนไพร หรือตากแห้ง สำเนียงที่เรียกออกเสียงใต้ฝั่งอันดามัน แถบพังงา ภูเก็ต คือ ออกเสียงว่า “ปลาฉิ้งฉั้ง หรือ ฉิ้งฉ้าง” ซึ่งแตกต่างกันทั้ง สำเนียง ความหมาย ชนิดปลา กรรมวิธีการทำ และการนำไปปรุงเป็นอาหาร “ปลาฉิ้งฉั้ง หรือ ฉิ้งฉ้าง” มักนิยมทำปลาแห้งหรืออบกรอบให้เป็นปลาที่ทำมาจาก “ปลากะตัก” ตัวเล็กๆเป็นปลาทะเลขนาดจิ๋ว ยาวไม่เกิน ๑๐ ซม. มีอายุประมาณ ปีสองปีเท่านั้น แต่เป็นปลาที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงมาก จึงมีการนำมาใช้ประโยชน์จากปลาชนิดนี้ ๒ ทางด้วยกัน คือ นำไปเป็นวัตถุดิบในการทำน้ำปลาและทำปลาตากแห้งขายทั่วไป ทั้งในและต่างประเทศ สำหรับในตลาดท้องถิ่นอาจนำมาหมัก ทำบูดูฉิ้งฉั้ง ขายอีกส่วนหนึ่งด้วย  ปลาฉิ้งฉั้งนั้นมีขั้นตอนการที่ซับซ้อน เนื่องจากต้องควบคุมเวลาที่ใช้ในการอบแห้งไม่เท่ากันในแต่ละรอบ อีกทั้งยังมีความชื้นที่เกิดจากไอน้ำทำให้ปลาอาจจะขึ้นราและเกิดผลเสียต่อการผลิตอีกด้วย

      ดังนั้นคณะผู้จัดทำจึงได้เล็งเห็นถึงปัญหาเหล่านี้ และได้จัดทำ โรงอบแห้งปลาฉิ้งฉั้งผ่านระบบ IOT ขึ้นเพื่อช่วยในการแก้ปัญหาโดยควบคุมความชื้นควบคุมอุณหภูมิและการให้แสงในอุณหภูมิที่เหมาะสม ในการทำให้ปลาฉิ้งฉั้งมีคุณภาพและมีผลผลิตทันตามความต้องการของลูกค้า ทางคณะผู้จัดทำจึงนำตัว kid-bright มาประยุกต์ใช้ในการทำโครงงานจึงทำให้เกิดแนวคิดใหม่ที่จะนำมาแก้ปัญหาโดยนำเทคโนโลยีในยุคThailand 4.0 โดยระบบสมองกลคอมพิวเตอร์ในการคิดคำนวณและควบคุมการทำงานของเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์จึงได้จัดทำโครงงานโรงอบแห้งปลาฉิ้งฉั้งผ่านระบบ IOT  ที่สามารถแจ้งเตือนการทำงานไปยัง Line ของผู้ใช้ และยังสามารถแจ้งค่าอุณภูมิความชื้นไปยังโทศัพท์มือถือของผู้ใช้งานเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายแก่เกษตรกชาวประมง

รายงานฉบับสมบูรณ์ (PDF File)

Clip VDO

โปสเตอร์ (PDF File) 

โครงงานถังขยะอัจฉริยะ

(ม.ต้น)

ผู้จัดทำ

1. นายจักรพงศ์  ศรีชาย
2. นายศุภเดช   สมบุญ

อาจารย์ที่ปรึกษา: นายนพดล สุทธิมา   และนางสาวสุกัญญา อุพัมมา

สถานศึกษา :โรงเรียนศึกษาสงเคราะสุราษฎร์ธานี จ. สุราษฎร์ธานี

บทนำ

ปัจจุบันนับว่าปัญหาของขยะเป็นเรื่องสำคัญทั้งในระดับชุมชนเเละระดับประเทศโลกของเรามีขยะเป็นจำนวนมากส่งผลให้เกิด เช่น ภาวะโลกร้อนกลิ่นมลพิษโลกของเราก็ยังมีคนที่ทิ้งขยะเกลื่อนกลาด เช่น ตามที่สาธารณะคนก็กินเเล้วทิ้งขยะเกลื่อนกลาดทำให้เกิดขยะเป็นจำนวนมากทำให้สถานที่จากสะอาดเปลี่ยนเป็นสกปรกเเละส่งกลิ่นเหม็นทำให้ไม่น่านั่งพักเกิดจากคนไม่มีจิตสำนึกในการทิ้งขยะลงถังการทิ้งขยะลงถังทำให้คนที่จัดการเกี่ยวกับบริเวณนั้นจะสะดวกในการทำความสะอาดมากขึ้น การจะเเก้ไขปัญหาเราต้องเริ่มจากจุดเล็กๆ ก่อนด้วยการปลูกฝังให้คนทิ้งขยะลงถังโดยอาจจะเริ่มจากโรงเรียนรู้จักทิ้งขยะให้ลงถังทำให้โรงเรียนของเราดูสะอาดมีบรรยากาศที่เหมาะสมเเก่การเรียนรู้เริ่มต้นจากโรงเรียนได้ผลดีก็จะต่อไปยังระดับชุมชนเเละระดับประเทสชาติต่อไปได้

1.2 เเนวคิด

ได้มาจากถังขยะธรรมดาที่เป็นที่ใช้เท้าเหยียบ

1.3ความสำคัญของโครงงาน

ถังขยะอัจฉริยะรุ่นนี้ สามารถใช้งานได้จ

1.4วัตถุประสงค์

1.เพื่อศึกษาเกี่ยวกับอุปกรณ์วงจรอิเล็กทรอนิกส์

2.เพื่อศึกษาการเขียนโปรเเกรมคอมพิวเตอร์

3.เพื่อสร้างถังขยะอัจฉริยะ

1.5 ขอบเขต

ถังขยะอัจฉริยะสามารถเปิดฝาถังเองได้เเละขับเคลื่อนได้เเละมีเสียงพูดตอนนี้ทำไปได้ประมาณ60% คือฝาถังเเละถังขยะต้องอยู่ในระยะของบลูทูธเเละอยู่ในระยะโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์สุราษฎร์ธานี

รายงานฉบับสมบูรณ์ (PDF File)

Clip VDO 

โปสเตอร์ (PDF File)

โครงงานพ่อบ้านใจกล้า

(ม.ต้น)

ผู้จัดทำ

1. นาย วิสุทธิ์ ณ พัทลุง
2. นางสาว ชนินาถ เอี่ยมขำ
3. ด.ช. ปัณณธร ผากอง

อาจารย์ที่ปรึกษา:

1.คุณครู นพดล สุทธิมา

2.คุณครู สุกัญญา อุพัมม

สถานศึกษา :

โรงเรียน ศึกษาสงเคราะห์สุราษฎร์ธานี

บทนำ

บทนำ

1.1ความเป็นมาของโครงงาน

เนื่องจากคนสมัยใหม่ไม่ค่อยมีเวลามากพอที่จะดูเเลที่พักอาศัย เราจึงเล็งเห็นปัญหาในส่วนนี้และคิดว่าจะทำอย่างไรเพื่อที่จะประหยัดระยะเวลาในการทำความสะอาดให้น้อยลงและไม่เหนื่อย และใช้ได้กับทุกคน เราจึงคิดค้นหุ่นยนต์พ่อบ้านขึ้นมาเพื่อตอบสนองคนทำงานที่มีเวลาน้อยในการทำความสะอาดที่พัก

1.2แนวคิด

หุ่นยนต์พ่อบ้านนี้ได้แนวคิดมาจากการทำความสะอาด กวาดและถูพื้น แต่ปกติในการที่จะกวาดให้เสร็จและถูพื้นก็ใช้เวลานานพอควร เราจึงออกแบบหุ่นยนต์พ่อบ้านให้มีเครื่องดูดฝุ่นแทนการกวาดและใช้ไม้ม็อบแทนการถูพื้น เพื่อง่ายต่อการที่จะใช้งานไปพร้อมๆกันโดยไม่ต้องรอสิ่งใดสิ่งหนึ่ง

1.3 ความสำคัญของโครงงาน

ในบางครั้งเราอาจไม่มีเวลาในการทำความสะอาดที่พักมากพอ สิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้จึงช่วยให้เราประหยัดเวลาในการทำความสะอาดที่พักอาศัยได้มากขึ้นและทำให้ที่พักของเราสะอาดโดยไม่ต้องเปลืองแรงของตัวเอง

1.4 วัตถุประสงค์

1.เพื่อประหยัดเวลาและแรงในการทำความสะอาด

2.เพื่อเรียนรู้ภาษาคอมพิวเตอร์

3.เพื่อเรียนรู้การต่อวงจรอิเล็กทรอนิกส์

4.เพื่อเรียนรู้การทำโครงงานการประดิษฐ์สมองกล

1.5 เป้าหมาย

1.เข้าใจภาษาคอมพิวเตอร์

2.เกิดทักษะในการต่อวงจรอิเล็กทรอนิกส์

3.เกิดทักษะการทำโครงงานสิ่งประดิษฐ์สมองกล

4.ได้หุ่นยนต์ทำความสะอาดผ่านโทรศัพท์มือถือ

1.6 ขอบเขตและข้อจำกัดของโครงงาน

1.การทดสอบประสิทธิภาพหุ่นยนต์พ่อบ้านในครั้งนี้อยู่ภายในโรงเรียน ศึกษาสงเคราะห์สุราษฎร์ธานี

2.หุ่นยนต์จะต้องอยู่ในพื้นที่ที่บลูทูธจะส่งสัญญาณถึงได้

รายงานฉบับสมบูรณ์ (PDF File)

Clip VDO 

โปสเตอร์ (PDF File)

โครงงานเครื่องฟักไข่เบตงอัตโนมัติ

(ม.ต้น)

ผู้จัดทำ

1.เด็กชายมูฮัมหมัด  แวสาและ    

2. เด็กชายสาฮาบุดดีน  ดอฆอ    

3. เด็กชายตูแวมูฮัมหมัดเฟาซัน  ยามา

อาจารย์ที่ปรึกษา:

1.นางสาวนูรียะ                 อามะ

2.นางสาวฮาสือนะ             เเบเฮง

3.นายอิลฮาม                 เจะอาแว

สถานศึกษา :

โรงเรียนบากงพิทยา

บทนำ

เนื่องจากปัจจุบันโรงเรียนบากงพิทยาได้ดำเนินจัดทำการเกษตรหลายด้านด้วยกัน เช่น การเลี้ยงปลา  เพาะเห็ดนางฟ้า ปลูกมะนาว ปลูกผักสวนครัว เลี้ยงเป็ดและเลี้ยงไก่ไข่  ซึ่งจากการดำเนินงานพบว่าปัญหามากที่สุดคือการขยายพันธ์ไก่เพราะการฟักไข่ตามธรรมชาติจะต้องใช้เวลาประมาณ  21  วัน  แม่ไก่ในช่วงที่ฟักไข่จะไม่สามารถออกไข่ได้อีกและการฟักไข่ตามธรรมชาติมีเปอร์เซ็นต์การฟักไข่เป็นตัวไม่มาก ซึ่งจะมีสาเหตุมาจากความชื้น อุณหภูมิ ไม่พอเหมาะและไม่คงที่จึงทำให้ไก่ไม่พอต่อการบริโภคภายในโรงเรียน
ดังนั้นกลุ่มของข้าพเจ้าได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในเรื่องนี้จึงได้คิดค้นจะสร้างเครื่องให้ฟักไข่อัตโนมัติ   เพื่อขจัดปัญหาดังกล่าวและช่วยลดค่าใช้จ่ายในโรงเรียนเพิ่มอีกด้วย

รายงานฉบับสมบูรณ์ (PDF File)

Clip VDO 

โปสเตอร์ (PDF File)

โครงงานถังขยะ

(ม.ต้น)

ผู้จัดทำ

1. นายไซฟุดดีน หนิจิบุลัด

1. นายอารีฟ นาราปัตย์

1. ด.ช.ริซกี หมานหมีน

อาจารย์ที่ปรึกษา:

อาจารย์ ภูริเดช หอมจันทร์
อาจารย์ ลียานา บินมะยะโกะ
อาจารย์ กัสตูรี เพ็งมูซอ

สถานศึกษา :

บทนำ

ปัจจุบันปัญหาเรื่องขยะมีมากมายทำให้ต้องมีการแยกขยะและทิ้งขยะให้ลงถัง เพื่อที่จะเป็นอีกวิธีหนึ่งในการลดสภาวะโลกร้อน ดังนั้นทางเราจึงมีแนวคิดว่าถ้าหากมีขยะที่มีตัวเซนเซอร์เป็นตัวเปิดฝาให้เราได้ก็จะทำให้ผู้คนมีความรับผิดชอบมากยิ่งขึ้น

กระบวนการทำงานของมันก็คือ  จะมีตัวเซนเซอร์ทำหน้าในการจับวัตถุต่างๆเมื่อมีวัตถุมาอยู่ใกล้กับตัวเซนเซอร์ฝาถังขยะจะสามารถเปิดเองโดยอัตโนมัติ และสามารถปิดเองได้

รายงานฉบับสมบูรณ์ (PDF File)

Clip VDO 

โปสเตอร์ (PDF File)

โครงงานบ้านตากอาหารแห้ง อัฉริยะ

(ม.ต้น)

ผู้จัดทำ

1. เด็กชาย อิลมี ตะมะระ
2. เด็กชาย ยีฮาดุดีน เจะยิ
3. เด็กชาย รีซูวัน จินตรา

อาจารย์ที่ปรึกษา: นางสาว นูซีลา จินตรา

สถานศึกษา :โรงเรียน สมบูรณ์ศาสน์

บทนำ

ปัจจุบัน โลกมีการพัฒนามากขึ้น ผู้คนต้องแข่งขันในทุกด้าน มีเวลาสำหรับการทำงานในหอพักหรือบ้านน้อยลง จึงได้คิดประดิษฐ์เครื่องมือที่สามารถช่วยประหยัดเวลาในการทำงานคือ บ้านตากอาหารแห้งอัจฉริยะขึ้นมาใช้งานจะได้นำเวลาส่วนที่เหลือไปใช้ในการทำงานอย่างอื่นหรือเมื่อออกไปทำงานนอกหอพักหรือบ้าน ในการตากอาหารแต่ละครั้งต้องตากในที่มีแสงแดด จะทำให้อาหารแห้งไว แต่ในการตากอาหารแต่ละครั้งต้องมีคนคอยเก็บอาหารเมื่อแห้ง เมื่อฝนตกอาหารที่ตากไว้อาจเปียกได้ ดังนั้นตู้ตากอาหารแห้งอัจฉริยะจึงออกแบบให้ เป็นแบบเลื่อนเข้า-เลื่อนออกอัตโนมัติ

โดยในปัจจุบันเทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญอย่างมากในการดำเนินชีวิต ในส่วนของการอำนวยความสะดวกสบาย  ซึ่งโรงเรียนของผมเป็นโรงเรียนในโครงการพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ได้มีการจัดทำการเกษตรขึ้นมาเพื่อทำอาหารให้นักเรียนรับประทานเป็นอาหารกลางวัน   ในแต่ละวัน ครูได้จัดเวรรับผิดชอบให้นักเรียน เพื่อตากหรือเก็บอาหาร บางวันนักเรียนก็ไม่ค่อยทันกับเวลา และทำให้เสียเวลาตรงนั้นไป ทั้งนี้ด้วยกลุ่มของผมก็ได้คิดทำ บ้านตากอาหารแห้งอัจฉริยะขึ้นมาเพื่อไม่ให้เสียเวลาและยังสามารถไปทำอย่างอื่นอีก

รายงานฉบับสมบูรณ์ (PDF File)

โครงงาน-บ้านตากอาหารแห้งอัจฉริยะ.1-1-1

Clip VDO 

โปสเตอร์ (PDF File)

โครงงานบาร์ดทนเดอร์ โปสเตอร์บ้านตากอาหารแห้ง อัฉริยะ